วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Edward snowden

Edward Snowden เป็นผู้เปิดโปงการทำงานของรัฐบาลที่ลอบเก็บข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นผู้ทรยศต่อประเทศชาติ


สำหรับผู้ที่สนับสนุนการรักษาความมั่นคงปลอดภัย แม้จะต้องสูญเสียความลับส่วนบุคคลไม่มากก็น้อย Edward Snowden ลูกจ้างพิเศษของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐที่เปิดเผยว่ารัฐบาลติดตามเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างกว้างขวางนั้น เป็นผู้กระทำการผิดกฎหมายข้อมูลเท่าที่บุคคลผู้นี้เปิดเผยไปแล้ว รวมถึงโครงการของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) ที่เก็บรวบรวมบันทึกการใช้โทรศัพท์และการใช้อินเทอร์เน็ตของคนอเมริกันนับร้อยๆล้านคน ทางการสหรัฐแถลงว่า โครงการดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมาย และข้อมูลที่เก็บมาช่วยให้สะกัดกั้นแผนก่อการร้ายได้หลายครั้'สส. Mike Rogers ประธานคณะกรรมการเรื่องข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ต้องการนำตัว Edward Snowden มาดำเนินคดีในข้อหาจารกรรม โดยให้ความเห็นว่า การกระทำของ Edward Snowden เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ และเป็นการละเมิดการสาบานตนเมื่อเข้ารับงานPhil Carter ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงแห่งชาติ เป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่า การกระทำของ Edward Snowden ทำความเสียหายเป็นอย่างมากต่อการรักษาความมั่นคงของประเทศเขาบอกว่า เป็นการเปิดเผยโครงการที่รัฐบาลใช้สำหรับการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลมาวิเคราะห์ เพื่อติดตามดูแผนในอนาคตของผู้ก่อการร้าย และการทำงานของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ รวมทั้งการตรวจสอบหาความผิดปกติที่อาจเกี่ยวโยงกับกิจการที่เป็นอาชญากรรมในสหรัฐได้แต่สำหรับผู้ที่มีความเห็นว่า NSA ทำงานเกินหน้าที่ทางกฎหมาย Edward Snowden เป็นวีรบุรุษที่กล้าเปิดเผยเรื่องนี้ออกมาJesselyn Radack ของ องค์กรที่ไม่ใช่รัฐบาล Government Accountability Project บอกว่า Edward Snowden เป็นผู้เปิดโปงการกระทำผิดกฎหมาย เป็นคนกล้าหาญอย่างมาก วางแผนไว้ดี และกระทำการที่เสี่ยงอันตรายเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเธอให้ความเห็นว่า การขุดหาข้อมูลของ NSA เป็นการละเมิดเรื่องส่วนตัวของประชาชน ล่วงล้ำขีดจำกัดที่กฎหมาย Foreign Intelligence Surveillance ของปี ค.ศ. 2008 และกฎหมาย Patriot กำหนดไว้ตามความเห็นของ Jesselyn Radack หน่วยงานของรัฐบาลละเมิดกฎหมายสองฉบับนี้ และ Edward Snowden เปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นการสูญเปล่า การใช้อำนาจเกินหน้าที่ และการละเมิดสิทธิบัตรอย่างมากJulian Assange ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Wikileaks ที่เผยแพร่เอกสารลับของสหรัฐ ซึ่งเป็นโทรเลขทางการทูตและรายงานจากสนามรบในอิรัคและแอฟกานิสถานนับหมื่นๆฉบับ กล่าวยกย่อง Edward Snowden ว่า Edward Snowden เป็นวีรบุรุษที่บอกกล่าวให้ประชาชนได้รับรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในช่วงทศวรรษนี้ ซึ่งก็คือ การค่อยๆก่อตัวของรัฐที่จับตาเฝ้าดูประชาชน โดยศาลก็เป็นใจ ช่วยกันเก็บเป็นความลับ และออกคำสั่งที่ละเมิดการปกป้องคุ้มครองประชาชนตามรัฐธรรมนูญของประเทศ และยังชักนำให้บริษัท hi-tech เช่น Google, Yahoo, Skype, และ Facebook ให้ความร่วมมืออีกด้วยและในขณะที่ทางการสหรัฐกำลังพิจารณาว่า การกระทำของ Edward Snowden เป็นการกระทำผิดทางอาญาหรือไม่นั้น ไม่มีใครทราบว่าบุคคลผู้นี้อยู่ที่ไหนในขณะนี้ เพราะหลังจากที่เปิดเผยตนเองว่าอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ รายงานข่าวกล่าวว่า เขาเช็คออกจากโรงแรมแห่งนั้นไปแล้ว

ข่าวจากเฟซบุ๊ค


ข่าวที่นาย Edward Snowden ชาวอเมริกันวัย29 ปี ลูกจ้างชั่วคราวขององค์กรราชการลับอย่าง NSA(NationalSecurity Agency) ที่มีหน้าที่หาข้อมูลจากข่าวสารต่างๆตามหน้าหนังสือพิมพ์เพื่อนำข้อมูลต่างๆเหล่านี้ส่งเก็บไปที่ฐานข้อมูลให้กับองค์กรอย่าง NSA นั้นก็ปรากฏว่าจู่ๆนาย Edward Snowden ไปให้สัมภาษณ์กับหนังสือของอังกฤษ theGuardian ว่าองค์กรอย่าง NSA ได้ทำการดับฟัง(eavesdropping)การพูดจาของคนอเมริกันเป็นจำนวนหลายล้านคนรวมถึงการเข้าไปเจาะข้อมูลแบบจารชน(spy)ทางสื่ออินเตอร์เนทของชาติต่างๆทั่วโลก
 
นาย Edward บอกหนังสือพิมพ์the Guardian ว่า 'คุณจะนึกไม่ถึงหรอกว่าความสามารถของพวกเขา(NSA)มีมากเพียงใดและเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวมาก...' และเขายังกล่าวต่อไปว่า'...ผมไม่ต้องการจะอยู่ในโลกที่ทุกอย่างถูกทำการบันทึกหรือถูกจับตามอง...นี่คือสิ่งที่ผมไม่ต้องการเข้าไปสนับสนุนหรือต้องการใช้ชีวิตแบบนี้...'และท้ายสุดนาย Edward ก็ได้กล่าวว่า 'ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้กลับบ้านเกิดอีกแล้วแม้ว่าผมต้องการจะกลับบ้าน'
 
ก็แปลกดีครับ ที่คำให้สัมภาษณ์ของนาย EdwardSnowden กับหนังสือพิมพ์ the Guardian เกิดขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดีของจีนนายสี จิ้งผิงเดินทางไปพบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานายบารัค โอบามาและบทสนทนาที่สำคัญยิ่งระหว่างผู้นำทั้งสองชาตินี้ก็คือเรื่องการจารกรรมข้อมูลระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาว่าเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลให้กับทั้งจีนและสหรัฐอเมริกามาก
 
แต่การให้สัมภาษณ์ของนาย EdwardSnowden ดูคล้ายจะตอกย้ำว่า ตัวสหรัฐอเมริกาเองซึ่งผ่านทางหน่วยงานรัฐอย่างองค์กร NSA ต่างหากที่คอยไปเจาะเก็บข้อมูลของชาติต่างๆ ซึ่งแน่นอนจีนก็ย่อมเป็นชาติที่ต้องโดนองค์กรอย่าง NSA เข้าเจาะข้อมูล(hacking)อย่างต่อเนื่องเพราะพนักงานของทาง NSA อย่างนาย Edward Snowden ก็ได้ออกมายอมรับว่าNSA มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง แม้ว่าเขาไม่ได้พูดเฉพาะเจาะจงว่า NSAเล่นงานเจาะข้อมูลของจีนเพียงชาติเดียว
 
และที่น่าแปลกใจอีกอย่าง คือนาย Edwardให้สัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวในขณะที่เขาพักอยู่ที่ฮ่องกง(เขาได้เดินทางออกจากโรงแรมที่ฮ่องกงไปแล้วตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน)ซึ่งเป็นเขตภายใต้การปกครองของจีนดังนั้นทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะขอให้ทางจีนส่งตัวเขากลับไปยังสหรัฐอเมริกาทันทีนั้นจีนก็อาจย่อมมีการสงวนท่าทีบ้างแม้ว่าตอนที่ฮ่องกงอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักรนั้นทางสหราชอาณาจักรสามารถที่จะส่งคนที่ทางรัฐบาลชาติอื่นขอตัวนำกลับประเทศที่ทำเรื่องเรียกร้องมาซึ่งสามารถทำได้
 
แต่ที่น่าสนใจอีกอย่าง คือนาย EdwardSnowden ถ้าดูแล้ว เขาก็ไม่ได้เป็นสายลับให้กับชาติใดไม่เหมือนอย่างในยุคสงครามเย็น ที่ทางสหรัฐอเมริกาและทางสหภาพโซเวียดต่างมีสายลับล้วงข้อมูลระหว่างกัน ถ้าถูกจับได้ว่ามีการทำงานให้กับชาติศัตรูก็จะถูกดำเนินคดี ในอดีตถึงกับทำโทษถึงขั้นประหารชีวิต
 
สิ่งที่นาย Edward Snowden ให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์the Guardian คือองค์กรอย่าง NSA ได้เข้าไปล้วงลูกเจาะข้อมูลของชาติต่างๆผ่านทางอินเตอร์เนทและทำการล้วงลูกเจาะข้อมูลของคนอเมริกันที่มีจำนวนเป็นล้านคือเล่นงานคนชาติเดียวกันอีกด้วย
 
นายบารัค โอบามาได้พูดกับสื่อว่า สิ่งที่นาย Edward Snowden ออกมาให้สัมภาษณ์นั้นไม่เป็นความจริงเลย รัฐบาลอเมริกันมีหน้าที่ปกป้องความปลอดภัยต่อพลเมืองอเมริกันเท่านั้น
 
ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าคำว่าปกป้องพลเมืองอเมริกันนั้น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ใช้ rated อะไรในการวัดเช่น rated G, rated PG, rated R, rated X, rated XXX เพราะสิ่งที่นายEdward พูดว่าทาง NSA เข้ามาล้วงเจาะข้อมูลคนอเมริกันและคนทั้งโลกเป็นความจริงตามที่เขาให้สัมภาษณ์และนายโอบามาก็ไม่ได้ปฎิเสธแบบได้ใจคนอเมริกันทั้งหมดเพียงแต่บอกว่ารัฐบาอเมริกันต้องการปกป้องความปลอดภัยของคนอเมริกัน
 
ตอนนี้ทางสื่อก็ได้มีการขุดคุ้ยประวัติของนายEdward Snowden อย่างเต็มที่ ดูเขาเรียนหนังสือไม่จบชั้นมัธยมปลายแต่มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ดีมาก และได้ถูกว่าจ้างเป็นเงินค่อนข้างแพงให้ทำงานแบบลูกจ้างชั่วคราวให้กับองค์กรอย่าง NSA ซึ่งก็แปลกดีที่ทางNSA ว่าจ้างพนักงานชั่วคราวอย่างนาย Edward มาทำงานให้กับทาง  NSA
 
'สหรัฐอเมริกา ใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรมและความล้ำเลิศทางเทคโนโลยีในการเจาะหาติดตามข้อมูลของผู้อื่นอย่างน่าสะพรึงกลัวมาก'นาย Edward กล่าว
 
ตอนนี้นาย Edward Snowden คงต้องคอยหลบหนีการติดตามไล่ล่าของรัฐบาลสหรัฐฯมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลก ก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปจบหรือลงเอยที่ไหน
 
'If you live another day. I will be very impressed'
 
ประโยคดังกล่าวมาจากภาพยนตร์เรื่อง theEnemy of the State(1998) ที่ทางหน่วยงานรัฐทาง NSA พูดกับพวกที่กำลังถูกทางรัฐบาลไล่ล่าอยู่เพราะถูกมองว่าเป็นศัตรูของรัฐบาล
 
ครับคุณ Edward Snowden 'If youlive another day. I will be very impressed'
 
วันนี้ผมจะขอปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เล่น facebook ไม่ส่งอีเมล์ แล้วก็จะไม่ chat กับใครเพื่อทำใจให้กับตัวเอง

Hacker 20คนที่มีชื่อเสียง

Hacker คืออะไร

Hacker ก็คือ ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในระบบคอมพิวเตอร์อย่างสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครือข่าย , ระบบปฏิบัติการ หรือ เรื่องของทางจิตวิทยาเองก็ตาม พวกเขามีความรู้ทางด้านนี้สูงมากซะจน สามารถเข้าใจว่า มันมีช่องโหว่ตรงไหน หรือสามารถไปค้นหาช่องโหว่ได้จากตรงไหนบ้าง เมื่อก่อนภาพลักษณ์ของ Hacker จะเป็นพวกชั่วร้าย ชอบขโมยข้อมูล หรือ ทำลายให้เสียหาย แต่เดี๋ยวนี้ คำว่า Hacker หมายถึง Security Professional ที่คอยใช้ความสามารถช่วยตรวจตราระบบ และแจ้งเจ้าของระบบว่ามีช่องโหว่ตรงไหนบ้าง พูดง่ายๆว่า มีจริยธรรมในความเป็น Hacker นั่นเอง ในต่างประเทศมีวิชาที่สอนถึงการเป็น Ethical Hacker (แฮกเกอร์แบบมีจริยธรรม) กันเลยทีเดียว ซึ่งแฮกเกอร์แบบนี้เรียกอีกอย่างว่า White-Hat Hacker ก็ได้ เปรียบเสมือน ฝ่าย เจได ใน Star War ครับ แล้วพวกที่นิสัยไม่ดีล่ะจะเรียกว่าอะไร พวกนี้เรียกว่า Cracker สรุปง่ายๆก็คือ มีความสามารถเหมือน Hacker ทุกประการ แต่ขาดเรื่องจริยธรรมไปอย่างเดียว คนพวกนี้ มีความสามารถสูงแต่ความรู้สึกอยากเอาชนะก็สูงไปด้วย จึงชอบที่จะทำชื่อเสียโด่งดังด้วยการไป Hack โน่นนี่ แล้วสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านทั้งแบบรู้ตัว และ ไม่รู้ตัว เปรียบได้กับพวก Sith (ฝ่ายมืด) ในเรื่อง Star War แหละครับ แต่ก็ต้องขอนับถือบรรหา Black-Hat ทั้งหลายที่เก่งฉกาจ คิดค้นวิธี Hack มหาพระกาฬออกมาทำให้วงการ Security ต้องตื่นตัวมากๆตามไปด้วย แต่ก็ยังมีอีกพวกนึงที่ก่อความน่ารำคาญได้มาก นั่นก็คือพวก Script-Kiddies ครับScript-Kiddied แปลตรงๆตัวก็คือ พวกนี้โชคดีได้ ดาบ Light-Saber มาในมือ ก็เลยเอาไปหาเรื่องชาวบ้าน เปรียบเสมือนโจรมุมตึก ที่มีของนิดหน่อยก็นึกว่าตัวเองเจ๋ง แต่ที่จริงเป็นแค่หนอนแมลงชั้นต่ำของวงการที่ทำให้วงการ Hacker ชื่อเสีย อยู่ทุกวันนี้ คนพวกนี้จะมีความรู้แค่หางอึ่ง แต่ไปโหลดโปรแกรมที่พวก Hacker เค้าใช้งานกันมาใช้เองบ้าง ซึ่งในวงการ Hacker มีพวกนี้อยู่กว่า 95% เลยทีเดียว เปรียบได้กับพวกตัวประกอบเกรดบีใน Star War ที่โดนเลเซอร์ยิงทีเดียวก็ตาย ตำนาน  Hacker ระดับโลกวงการคอมพิวเตอร์อยู่คู่โลกนี้มาประมาณ 50 กว่าปีแล้ว มาลองดูกันว่า Hacker ระดับโลกเค้าเป็นใครและเดี๋ยวนี้เค้าเป็นยังไงกันบ้าง




1.Justin Tanner Peterson
รู้จักกันในนาม Agent Steal, Peterson อาจเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ในเรื่องการ crack บัตรเครดิต ดูเหมือน Peterson จะถูกชักจูงด้วยเงินแทนที่จะเป็นความอยากรู้อยากเห็น เพราะการขาดคุณธรรมประจำใจของเขาเองที่นำหายนะมาสู่เขาและผู้อื่น อย่างเช่น ครั้งหนึ่ง เมื่อเขาโดนจับ เขากลับทิ้งเพื่อนของเขา รวมทั้ง Kevin Poulsen เพื่อเจรจาต่อรองกับ FBI เพื่อที่จะเปิดโปง ทำให้เขาได้รับการปล่อยตัว ต่อมาภายหลังได้หนีไป และก่ออาชญากรรมเช่นเดิม




2.The Deceptive Duo
หรือคู่หูจอมหลอกลวง ประกอบไปด้วยสมาชิก 2 คนคือ Benjamin Stark อายุ 20 และ  Robert Lyttle อายุ 18 ปี เจาะระบบของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึง นาวิกโยธิน,นาซา,FAA(ทบวงการบินพลเรือน)และ กระทรวงกลาโหม โดยพวกเค้าให้เหตุผลว่าที่ทำไปก็เพื่อเปิดเผยความล้มเหลวของระบบรักษาความปลอดภัย และต้องการปกป้องประเทศจากสงครามภายหลังเหตุการณ์ 911




3.Dmitri Galushkevich
เป็นhacker ชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในเอสโทเนีย เค้ารู้สึกผิดหวังจากการที่อนุสาวรีย์บรอนซ์ของทหารรัสเซียที่เสียชีวิตในเอสโทเนียในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองถูกย้ายที่ เลยทำhack เข้าไปโจมตีระบบของ รัฐบาล,พรรคการเมืองต่างๆ,หนังสือพิมพ์ และสถาบันเศรษฐกิจ ทำให้ทั้งประเทศตกอยู่ในสภาพ "internet gridlock"–คือทั้ง ATM,เว็บไซต์ และระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลอยู่ในสภาพที่ใช้การไม่ได้ แถมบางเว็บก็รีไดเร็คไปยังภาพของทหารโซเวียต และอ้างอิงถึง Martin Luther King เกี่ยวกับการ "ต่อต้านสิ่งชั่วร้าย"อีกต่างหาก




4.John Draper
John Draper–มีนามแฝงว่า Cap'n Crunch
ผลงาน-ในช่วง ทศวรรษ 1970 เขาได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งการ crack โทรศัพท์(phone phreaking) เพราะในขณะนั้น ยังเป็นยุคที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตและ PC ระบบที่ถือว่าใหญ่ที่สุดก็คือระบบโทรศัพท์และ Draper ก็ถือว่าเป็นเทพในด้านนี้
สิ่งที่น่าสนใจ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการ crack โทรศัพท์ของDraper คือ หลอดพลาสติกที่อยู่ในกล่องซีเรียล(!?!)–ซึ่งก็คือข้าวโพดเกล็ดที่เรากินกับนมนี่ล่ะ จากยี่ห้อ Cap'n Crunch cereal พลาสติกอันที่เค้าใช้เรียกว่า whistle หรือเครื่องเป่า ซึ่งจะทำให้เกิดคลื่นเสียงขนาด 2600 Hz ร่วมกับใช้ Bluebox ทำให้เค้าสามารถโทรศัพท์ได้ฟรี (ช่างคิดจริงๆ)




  5.Raphael Gray
Raphael Gray -ชื่อในวงการ Curador
ผลงาน-เจาะเข้าไปใน เว็บไซต์ e-commerce ต่างๆแล้วขโมยข้อมูลหมายเลขบัตรเครดิตของลูกค้ามากว่า 26,000 หมายเลข แล้วโพสต์ขึ้นบนเว็บเพจของตนเอง
สิ่งที่น่าสนใจ-เกรย์เรียกตัวเองว่า The saint(of e-commerce) เขาอ้างว่าการที่แฮ็กเข้าไปในเว็บไซต์เหล่นั้นก็เพื่อที่จะให้การช่วยเหลือเว็บต่างๆเหล่านั้น(ช่วยยังไงมิทราบยะ)  และนอกจากนี้หนึ่งในหมายเลขบัตรเครดิตที่เขาขโมยมาก็เป็นของคนดังในโลกของไอที ที่มีชื่อว่า บิล เกตต์ และเกรย์ก็ได้จัดการส่งยาเม็ดไวอากร้า(!?!) ไปยังที่อยู่ของบิล เกตต์และนำมาโพสต์ลงบนเว็บไซต์อีกต่างหาก (แสบจริงๆ)




6. Tsutomu Shimomura
สุด ยอด White-Hat สายเลือดเอเชีย Tsutomu Shimomuraได้รับชื่อเสียงอย่างโด่งดัง ในฐานะที่ร่วมมือกับ John Markoff ในการช่วยเหลือ FBI ไล่จับสุดยอดแฮกเกอร์ของโลกในยุคนั้น นั่นก็คือ KevinMitnick นั่นเอง ?Tsutumu ทำงานเป็นนักวิจัยอยู่ที่ SDSC (San DiegoSupercomputer Center) ซึ่งจริงๆแล้วก็โดนอีตา Kevin เข้ามาแฮกเอาโปรแกรมและเมล์สำคัญๆไป ดังนั้นด้วยคาวมแค้นเขาจึงร่วมมือกับ FBI ไล่จับ Kevin Mitnick ซึ่งต่อมาเมื่อเขาจับได้เขาก็เลยเขียนหนังสือชื่อ Takedown เป็นเรื่องราวของการไล่จับ KevinMitnick ซึ่งต่อมาได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง TakeDown ด้วย?



7. Richard Stallman 
ผู้ริเริ่มโครงการ GNU (อ่านว่า กนู นะครับ) และมูลนิธิซอฟท์แวร์เสรีรวมไปถึงผู้ริเริ่มแนวคิดเรื่อง Copyleft (ฮ่า)และเป็นผู้ร่างสัญญาอนุญาติให้ใช้ได้ทั่วไป และต่อในภายหลังสัญญานี้ได้กลายเป็น บรรทัดฐานซอฟท์แวร์เสรีจำนวนมากความเป็นแฮกเกอร์ของเค้าโผล่มาตอนที่เค้าทำ งานอยู่ที่ MIT ในฐานะของ Staff Computer ทุกครั้งที่มีระบบอะไรใหม่ๆติดตั้งเข้าไปและมีรหัสผ่านกำกับอยู่Richard Stallman จะหาทางแฮกและปลดรหัสผ่านออกทุกครั้ง ยังครับยังไม่พอพอแฮกระบบเสร็จก็แฮก Printerต่อเพื่อพิมพ์ข้อความบอกชาวบ้านว่าระบบไหนอยู่ที่ไหนปลดรหัสผ่านอะไร ไปแล้วบ้าง แสบจริงๆ




8. Linus Torvalds
บิดา ผู้ให้กำเนิด Linux ระบบปฏิบัติการ Unixที่คนนิยมกันมากที่สุดในโลกขณะนี้ ในปี 1991 ขณะที่เขายังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เฮลซิงกิ เขาได้สร้าง linux kernelขึ้นจากพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Minix ขึ้น หลังจากนั้นเขาก็รวบรวมสมัครพรรคพวกมาช่วยกันเขียนและช่วยกันพัฒนาต่อกันทาง อินเทอร์เน็ต โดยที่เขาเป็นคนรวบรวม ตรวจสอบและแจกจ่ายงานไปยังโปรแกรมเมอร์ต่างๆทั่วโลกรวมถึงแจกจ่ายให้คนช่วย กันเอาไปใช้ฟรีๆอีกด้วยจุดที่น่าสนใจของโครงการนี้ก็คือ ทุกคนที่มาร่วมทำนั้นทุกคนยินดีช่วยโดยไม่ได้ค่าตอบแทนแต่อย่างใด และมีเงื่อนไขต่อด้วยอีกว่าเมื่องานเสร็จแล้วจะต้องเผยแพร่ตัว Source Code แก่สาธารณะโดยไม่คิดมูลค่าเช่นเดียวกันครับ?ทุกวันนี้ Linux Torvalds ทำงานอยู่ที่บริษัท Transmeta บริษัทที่ทำหน้าที่ออกแบบ CPU และยังคงดำรงตำแหน่ง ผู้นำของบรรดาผู้ใช้งานและพัฒนา Linux ทั้งโลกครับยิ่งไปกว่านั้น หนังสือ Times Magazine ได้ยกให้เค้าเป็นหนึ่งคนในหนังสือชื่อ 60 Years of Hero สุดยอด




9. Tim Berners-Lee
ต้องขอบอกว่า ถ้าไม่มีอีตานี่โลกเราจะไม่มีคำว่า World Wide Web ครับเพราะเค้าคนนี้คือ คนที่ คิดค้น www ขึ้นบนโลก. Tim Berners-Lee เป็นลูกของสองนักคณิตศาสตร์ระดับโลก Convey และ ?Mary Berners-Leeซึ่งเป็นทีมสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ Manchester Mark 1เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกๆของโลก?ในปี 2532 Tim Berners-Lee ทำงานเป็น FreeLance อยู่ที่ CERN (ศูนย์วิจัยเรื่องนิวเคลียร์ของยุโรป)ซึ่งเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ ที่สุดของยุโรปเขาได้คิดค้นระบบข้อความหลายมิติ (Hypertext) ขึ้นมา ซึ่งเมื่อมันผนวกเข้ากับ TCP และ DNSล่ะก็ มันจะเป็นความสุดยอดของ HyperText แน่นอนและหลังจากนั้นมันจึงกลายเป็น ?World Wide Web ครับ ?เมื่อปี 2548 เขาได้รับรางวัล 1 ในร้อยบุคคลที่ทรงอิทธิพลต่อคนทั้งโลกมากที่สุด และในปี 2550 Tim Berners-Lee ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฝ่ายหน้าจากสมเด็จพระบรมราชินีเอลิซา เบทที่สอง เป็นการส่วนพระองค์ทำให้ตอนนี้เค้ากลายเป็น Sir Tim Berners-Lee ไปแล้วครับ?ผลงานการ Hackของ Tim Berners-Lee ไม่เป็นที่ปรากฏ แต่ว่าเรื่องนี้ก็ทำให้เค้าโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัย Oxford ล่ะครับ ปล.เว็บไซต์แรกของโลกคือ Welcome to info.cern.ch สร้างขึ้นโดย Tim Berners-Lee นี่แหละครับ




10. Stephen Wozniak
พูดถึง Apple Computer ใครๆก็อาจจะนึกถึง Steve Jobs ชายหนุ่มหัวแอบล้านซึ่งหลายๆคนรอคอย KeyNote ของเค้าในงาน MacWorldConference ทุกปี แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วถ้า Apple Computer ขาดเค้าคนนี้ไปล่ะก็ มันจะไม่มีวันนี้แน่นอน เพราะ Steve Wozniak คือผู้่ร่วมก่อตั้ง Apple Computer ครับ?การเป็น Hacker ช่วงแรกของเค้าอยู่ที่เค้าได้ไปอ่านบทความเรื่องการเจาะระบบโทรศัพท์ ในหนังสือ Esquire เข้าหลังจากที่คุยกับ Steve Jobs พวกเขาก็ได้คิดค้น BlueBox เครื่องเจาะระบบโทรศัพท์ที่ทำให้คุณสามารถ โทรทางไกลได้ฟรีๆ (เอาเข้าไป)มีครั้งหนึ่ง Steve Wozniak ได้แอบใช้เครื่อง BlueBox โทรหาพระสันตปาปาโดยปลอมตัวว่าเป็น Henry Kissingerรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐในตอนนั้นแสบจริงๆ?สำหรับ ช่วงแรกของการก่อตั้ง Apple Computer. Wozniakได้ขายเครื่องคิดเลขแสนแพงของเขา และ Jobs ได้ขายรถแวนของเขาเพื่อเป็นทุนในการก่อตั้ง Apple Computer ครับ และสุดท้ายเครื่อง Apple Iก็วางตลาด และทั้งคู่ได้ขายเครื่องนี้ในราคาเครื่องละ 666.66$




11.Jonathan James
รู้จักกันในนามว่า C0marade เป็นเด็กอายุ 15 ปีที่ได้แฮกข้อมูลเกี่ยวกับความมั่งคงของประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วก็ถูกจับกุมในฐานะอาชญากรทางด้านไซเบอร์ เป็นเด็กอายุน้อยคนแรกที่ถูกจำคุกเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ ในปี 2007 เขาก็ได้ทำการแฮกข้อมูลและรายละเอียดต่างๆของผู้ใช้บริการ Wi-Fi เป็นล้านๆคน อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ปฎิเสธเกี่ยวกับการแฮกครั้งนี้ ในปี 2008 เขาก็ได้ฆ่าตัวตายด้วยการเอาปืนยิงตัวเอง มีจดหมายก่อนตายที่เขาเขียนไว้ว่า เขาสูญเสียความศรัทธากับระบบยุติธรรมและมีความกลัวว่า เขาจะกลายเป็นแพะรับบาปจากเจ้าหน้าที่ เสียชีวิตด้วยวัย 24 ปี





12.Albert Gonzalez
เริ่มสนใจเรื่องการแฮกตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และก็เริ่มชำนาญในเรื่องการขจัดไวรัสในช่วงอายุ 9 ขวบ ตอนที่เขาเรียนอยู่ เขาก็ได้ทำการแฮกระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลประเทศอินเดีย ซึ่งทำให้เขาถูกห้ามใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลา 6 เดือน ต่อมาเขาก็มาในนามแฝงที่ชื่อว่า ShadowCrew เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่รู้จักกันดีที่ได้แฮกการ์ด ATM เป็นล้านๆ และกลายเป็นผู้ก่อการร้ายทางด้านระบบการ์ดและบริษัทอื่นๆ ปัจจุบันเขาถูกจำคุกและก็จะได้รับการปล่อยตัวในปี 2025




13.Kevin Mitnick
เป็นที่ปรึกษาทางด้านระบบการเชื่อมต่อและเป็นผู้เขียนหนังสือ The Art Of Deception เริ่มฉายแววตั้งแต่อายุ 16 ปีโดยการแฮกบริษัทต่างๆและซอฟแวร์ที่มีลิขสิทธิ์ เขาจึงถูกจำคุกเป็นเวลา 12 เดือน กับอีก 3 ปี ก็ได้รับการปล่อย แต่เขาก็ได้ลี้ภัยไปยังเมืองอื่นๆเป็นเวลาสั้นๆ แม้ว่าจะหลบหนีจากน้ำมือตำรวจได้ แต่เขาก็ยังทำการแฮกต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น IBM,Nokia,Mororola และอื่นๆ แต่สุดท้ายก็ถูกทาง FBI จับกุมที่หอพัก และก็ติดคุก 5 ปีในปี 2000




14.Robert Tappan Morris
เป็นอาจารย์สอนทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า และสอนทางด้านคอมพิวเตอร์ เป็นที่รู้จักกันดีว่าได้สร้างไวรัสที่มีชื่อว่า Morris Worm เป็นไวรัสที่ไม่ได้สร้างความเสียหาย แต่เป็นการวัดขนาดของอินเตอรเน็ต แต่ก็ทำให้ระบบต่างๆอ่อนแอลง และไวรัสก็เริ่มแพร่กระจายมากขึ้น เขาก็สารภาพในปี 1986 ถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ปี รับใช้สาธารณะ 400 ชั่วโมงและถูกปรับอีก 10000 ดอลลาร์




15.Adrian Lamo
เป็นนักแฮกที่มีความเกี่ยวข้องกับจอมแฉหลายๆคนอย่าง Bradley Manning ที่ได้ทำการเปิดโปงเรื่องปฎิบัติการลับทางทหารและทาง Wikileaks ถือเป็นแฮกเกอร์ที่ช่ำชองมาตั้งแต่เด็ฏๆ เขาได้ทำการเสาะหาข้อมูลต่างๆบนโลกไซเบอร์ แล้วต่อมาก็ได้ทำการแฮกเว็บไซด์ Microsoft , Yahoo! ,The New York Times และอื่นๆ เขามีการปรับปรุงทักษะตัวเองทางด้านการแฮกอยู่ตลอด จึงยากที่จะรู้ว่าเขาแฮกในรูปแบบไหน ซึ่งเขาก็ได้เป็นกระบอกเสียงหนึ่งในการเปิดโปงข้อมูลลับๆด้วยเช่นกัน




16.Gary Mckinnon
เป็นชาวสก็อตแลนด์ที่ได้ทำการแฮกข้อมูลนาซ่าและกองทัพของประเทศอเมริกาในช่วงปี 2001-2002 เว็บไซด์กองทัพเขาได้ทำการแฮกแล้วเขียน “ระบบความปลอดภัยของห่วยวะ” และก็ท้าทายต่อด้วยการแฮกระบบอาวุธของประเทศอเมริกาอีก อย่างไรก็ตามเขาก็ทำการโจมตีเกี่ยวกับเหตุการณ์ 9/11 ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับทางรัฐบาลและเรื่องที่ทางองค์กรต่างๆได้ขจัดพลังงานอื่นๆแล้วก็นำน้ำมันเข้ามาแทนที่ พอถูกจับได้ เขาก็ได้รับการปล่อยตัวจากการวินิจฉัยว่าเขาเป็นโรค Asperger Syndrome ที่มาจากความบกพร่องทางด้านการพัฒนาร่างกาย 




17.Onel De Guzman
เป็นนักศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์โปรแกรมเมอร์ชาวฟิลิปปินส์ ที่ได้ดรอปเรียนในปีสุดท้ายหลังจากที่ได้ปฎิเสธไม่รับวิทยานิพนธ์ที่เขาได้แฮกมาจากอินเตอร์เน็ตมา หลังจากนั้นเขาและเพื่อนของเขาก็ได้สร้างไวรัสสุดอันตรายที่ชื่อ ILOVEYOU ที่ได้ทำการโจมตีระบบปฎิบัติการทั่วโลก ทำให้อีเมล์หลายพันล้านเสียหายไปทั้งโลก ในช่วงเวลานั้นยังไม่มีกฎหมายเอาผิดเกี่ยวกับแฮกเกอร์ในประเทศฟิลิปปินส์ เพราะว่ายังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะออกกฎหมายนี้ เขาและเพื่อนของเขาจึงไม่มีความผิดอะไร





18.Mark Abene
เป็นอีกแฮกเกอร์คนหนึ่งที่มีคนให้ความเคารพศรัทธา รู้จักกันในฐานะ Robin Hood ในโลกไซเบอร์ ที่จัดโดยนิตยสาร Time เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ เป็นคนที่สนใจได้ในการสำรวจเสาะหาข้อมูลต่างๆ ระบบปฎิบัติการต่างๆ และระบบการสื่อสาร แล้วก็เข้าองค์กรแฮกเกอร์อย่าง Legion Of Doom (LOD) และกลุ่ม Masters Of Deception (MOD) โดยเขาจะเน้นการแฮกข้อมูลลับของสหรัฐอเมริกา และสุดท้ายก็ถูกจับกุมได้ ปัจจุบันเขาก็ทำงานที่ปรึกษาอิสระในเรื่องระบบการเชื่อมต่อหลายองค์กร




19.Kevin Poulsen
หรือรู้จักกันในชื่อของ Dark Dante เป็นแฮกเกอร์ที่ผู้คนให้ความนับถือ แล้วต่อมาเมื่อเขาถูกจับได้ที่ไปแฮกเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ สถานีวิทยุ เขาก็ยังสามารถหลบหนีออกมาได้ และโชว์ทักษะการแฮคขั้นเทพโดยไปแฮกเบอร์โทรศัพท์ของรายการ Unsolved Mysterious ล่มมาแล้ว และก็สามารถควบคุมโทรศัพท์ได้อย่างถาวร แต่สุดท้ายเขาก็ถูกจับกุมในปี 1991 จำคุก 51 เดือน ปัจจุบันเขาทำงานทางด้านเว็บไซด์




20.Dmitry Sklyarov

เป็นหนุ่มแฮกเกอร์มาดเซอชาวรัสเซีย ที่เขาถูกจับกุมในปี 2001 จากการแฮกข้อมูลต่างๆใน Las Vegas,Nevada เขายังทำการแฮกระบบของ Adobe และก็แฮกข้อมูลลิขสิทธิ์ต่างๆทางด้านซอฟแวร์ ก่อนที่เขาจะถูกจับกุม เขาก็เคยทำงานให้กับ ElcomSoft ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำทางด้านการปลดล็อค Password และผลิตภัณฑ์ต่างๆ เขาก็ได้ถูกจำคุกไป แล้วต่อมาก็ได้รับการปล่อยตัวไปที่เขายืนยันว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เรามาเรียนรู้ในงานบริการคอมพิวเตอร์กันเถอะ

งานบริการคอมพิวเตอร์




จุดประสงค์รายวิชา
  1. เพื่อให้มีความเข้าใจหลักการทำงาน และโครงสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ การถอดประกอบ ตรวจสภาพชิ้นส่วน หลักการจัดระบบเครือข่ายเบื้องต้น
  2. เพื่อให้สามารถบำรุงรักษา ตรวจซ่อม และจัดการธุรกิจคอมพิวเตอร์
  3. เพื่อให้มีกิจนิสัยในการทำงานด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ประณีตรอบคอบ และปลอดภัย
มาตรฐานรายวิชา
  1. เข้าใจหลักการทำงานและการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประกอบ
  2. ประกอบ ติดตั้ง ทดสอบ และตรวจซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประกอบ
  3. ติดตั้งโปรแกรม และบำรุงรักษาเครือข่ายเบื้องต้น
คำอธิบายรายวิชา
     ศึกษาและปฏิบัติ การประกอบ ติดตั้ง ทดสอบ และตรวจซ่อม เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เกี่ยวกับเครื่องพิมพ์ แผงวงจรการสื่อสาร การติดตั้งโปรแกรม การจัดห้องซ่อม การรับ-ส่งงาน และการประมาณราคา การทดสอบคุณภาพงายให้ได้มาตรฐาน



ระบบการทำงานคอมพิวเตอร์

การทํางานของคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
1. หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) 
           ทําหน้าที่ในการรับข้อมูลหรือคําสั่งจากภายนอกเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจํา เพื่อเตรียมประมวลผล
ข้อมูลที่ต้องการ  ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการนําข้อมูลที่ใช้กันอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น  มีอยู่หลายประเภทด้วย
กันสําหรับอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี ดังต่อไปนี้
           - Keyboard
           - Mouse
           - Disk Drive
           - Hard Drive
           - CD-Rom
           - Magnetic Tape
           - Card Reader
           - Scanner


2. หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) 

           ทํ าหน้าที่ในการคํานวณและประมวลผล แบ่งออกเป็น 2 หน่วยย่อย คือ
           - หน่วยควบคุม  ทําหน้าที่ในการดูแล ควบคุมลําดับขั้นตอนของการประมวลผล และการทํางาน
ของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในหน่วยประมวลผลกลาง  และช่วยประสานงานระหว่างหน่วยประมวลผลกลาง กับ
อุปกรณ์นําเข้าข้อมูล อุปกรณ์ในการแสดงผล และหน่วยความจําสํารอง
           - หน่วยคํานวณและตรรก ทําหน้าที่ในการคํานวณและเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่ส่งมาจาก
หน่วยควบคุม และหน่วยความจํา
3. หน่วยความจํ า (Memory) 
           ทําหน้าที่ในการเก็บข้อมูลหรือคําสั่งต่างๆ ที่รับจากภายนอกเข้ามาเก็บไว้ เพื่อประมวลผลและยัง
เก็บผลที่ได้จากการประมวลผลไว้เพื่อแสดงผลอีกด้วย ซึ่งแบ่งออกเป็น
           หน่วยความจํา เป็นหน่วยความจําที่มีอยู่ ในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ในการเก็บคําสั่ง
หรือข้อมูล แบ่งออกเป็น
           - ROM หน่วยความจําแบบถาวร
           - RAM หน่วยความจําแบบชั่วคราว
           - หน่วยความจําสํารอง    เป็นหน่วยความจําที่อยู่นอกเครื่อง มีหน้าที่ช่วยให้หน่วย ความจําหลัก
สามารถเก็บ ข้อมูลได้มากขึ้น

4. หน่วยแสดงผล (Output Unit) 
           ทําหน้าที่ในการแสดงผลลัทธ์ที่ได้หลังจากการคํานวณและประมวลผล สําหรับอุปกรณ์ที่ ทําหน้าที่
ในการแสดงผลข้อมูลที่ได้นั้นมีต่อไปนี้
           - Monitor จอภาพ
           - Printer เครื่องพิมพ.
           - Plotter เครื่องพิมพ์ที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการลงกระดาษ
ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
เมนบอร์ด (Mainboard, mother board) หรือ แผงวงจรหลัก เป็นหัวใจสำคัญที่สุดที่อยู่ภายในเครื่อง เมื่อเปิดฝาเครื่องออกมาจะเป็นแผงวงจรขนาดใหญ่วางนอนอยู่ นั่นคือส่วนที่เรียกว่า "เมนบอร์ด"
CPU
ซีพียู CPU (Central Processing Units) หรือ หน่วยประมวลผลกลาง คือส่วนที่เรียกว่าเป็นหัวใจของเครื่องคอมพิวเตอร์นั่นเอง เพราะการทำงานทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการคำนวณ การย้ายข้อมูล การตัดสินใจ ล้วนเกิดขึ้นที่นี่ทั่งสิ้น เพียงแต่ว่าซีพียูจะต้องมีอุปกรณ์อื่น ๆ ทำงานร่วมด้วย เพื่อให้สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้นั่นก็คือการับข้อมูลและแสดงผลข้อมูล
แรม 
(RAM: Random Access Memory หน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่ม หรือหน่วยความจำชั่วคราว) เป็นหน่วยความจำหลัก ที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ยุคปัจจุบัน หน่วยความจำชนิดนี้ อนุญาตให้เขียนและอ่านข้อมูลได้ในตำแหน่งต่างๆ อย่างอิสระ และรวดเร็วพอสมควร ซึ่งต่างจากสื่อเก็บข้อมูลชนิดอื่นๆ อย่างเทป หรือดิสก์ ที่มีข้อจำกัดในการอ่านและเขียนข้อมูล ที่ต้องทำตามลำดับก่อนหลังตามที่จัดเก็บไว้ในสื่อ หรือมีข้อกำจัดแบบรอม ที่อนุญาตให้อ่านเพียงอย่างเดียว

ฮาร์ดดิส
ระบบฮาร์ดดิสค์แตกต่างกับแผ่นดิสเกตต์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีจำนวนหน้าสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลมากกว่าสองหน้า นอกจากระบบฮาร์ดดิสค์จะเก็บบันทึกข้อมูลเหมือนแผ่นดิสเกตต์ยังเป็นส่วนที่ใช้ในการอ่านหรือเขียนบันทึกข้อมูลเหมือนช่องดิสค์ไดรฟ์
        แผ่นจานแม่เหล็กของฮาร์ดดิสค์ จะมีความหนาแน่นของการจุข้อมูลบนผิวหน้าได้สูงกว่าแผ่นดิสเกตต์มาก เช่น แผ่นดิสเกตต์มาตราฐานขนาด 5.25 นิ้ว ความจุ 360 กิโลไบต์ จะมีจำนวนวงรอบบันทึกข้อมูลหรือเรียกว่า แทร็ก(track) อยู่ 40 แทร็ก กรณีของฮาร์ดดิสค์ขนาดเดียวกันจะมีจำนวนวงรอบสูงมากกว่า 1000 แทร็กขึ้นไป ขณะเดียวกันความจุในแต่ละแทร็กของฮาร์ดดิสค์ก็จะสูงกว่า ซึ่งประมาณได้ถึง 5 เท่าของความจุในแต่ละแทร็กของแผ่นดิสเกตต์
        เนื่องจากความหนาแน่นของการบันทึกข้อมูลบนผิวแผ่นจานแม่เหล็กของฮาร์ดดิสค์สูงมาก ๆ ทำให้หัวอ่านและเขียนบันทึกมีขนาดเล็ก ตำแหน่งของหัวอ่านและเขียนบันทึกก็ต้องอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ชิดกับผิวหน้าจานมาก โอกาสที่ผิวหน้าและหัวอ่านเขียนอาจกระทบกันได้ ดังนั้นแผ่นจานแม่เหล็กจึงควรเป็นแผ่นอะลูมิเนียมแข็ง แล้วฉาบด้วยสารแม่เหล็ก ฮาร์ดดิสค์จะบรรจุอยู่ในกล่องโลหะปิดสนิท เพื่อป้องสิ่งสกปรกหลุดเข้าไปภายใน ซึ่งถ้าต้องการเปิดออกจะต้องเปิดในห้องเรียก clean room ที่มีการกรองฝุ่นละออกจากอากาศเข้าไปในห้องออกแล้ว ฮาร์ดดิสค์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันเป็นแบบติดภายในเครื่องไม่เคลื่อนย้ายเหมือนแผ่นดิสเกตต์ ดิสค์ประเภทนี้อาจเรียกว่า ดิสค์วินเชสเตอร์(Winchester Disk)
พาวเวอร์ซัพพลาย
แหล่งจ่ายไฟสำหรับคอมพิวเตอร์ หรือ พาวเวอร์ซัพพลาย (Power Supply) เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากต่ออุปกรณ์เกือบทุกตัวในระบบคอมพิวเตอร์ ซัพพลายของคอมพิวเตอร์นั้นมีลักษณะการทำงาน คือทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าจาก 220 โวลต์ เป็น 5 โวลต์ และ 12 โวลต์ ตามแต่ความต้องการของอุปกรณ์นั้นๆ โดยชนิดของพาวเวอร์ซัพพลาย ในคอมพิวเตอร์จะแบ่งได้เป็น 2 ชนิดตามเคส คือแบบ AT และแบบ ATX
 หลักการทำงานของพาวเวอร์ซัพพลาย
พาวเวอร์ซัพพลาย ทั้งแบบ AT และ ATX นั้นมีลักษณะการทำงานที่เหมือนกัน คือรับแรงดันไฟจาก 220-240 โวลต์ โดยผ่านการควบคุมด้วยสวิตช์ สำหรับ AT และเมนบอร์ด แล้วส่งแรงดันไฟส่วนหนึ่งกลับไปที่ช่อง AC output เพื่อเลี้ยงตัวมอนิเตอร์ และจะส่งแรงดันไฟ 220 โวลต์ อีกส่วนหนึ่งเข้าสู่หน่วยการทำงานที่ทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟสลับ 220 โวลต์ ให้เป็นไฟกระแสตรง 300 โวลต์ โดยไม่ผ่านหม้อแปลงไฟ ระบบนี้เรียกว่า (Switching power supply ) และผ่านหม้อแปลงที่ทำหน้าที่แปลงไฟตรงสูงให้เป็นไฟตรงต่ำ โดยจะฝ่านชุดอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่กำหนดแรงดันไฟฟ้าอีกชุดหนึ่งแบ ่งให้เป็น 5 และ 12 ก่อนที่จะส่งไปยังสายไฟและตัวจ่ายต่างๆ โดยความสามารถพิเศษของ Switching power supply ก็คือ มีชุด Switching ที่จะทำการตัดไฟเลี้ยงออกทันทีเมื่อมีอุปกรณ์ที่โหลดไฟตัวใดตัว หนึ่งชำรุดเสียหาย หรือช็อตนั่นเอง

การ์ดจอ
Display Card
          การ์ดแสดงผลหรือการ์ดจอ หรือเรียกอีกอย่างก็คือ VGA Card (Video Graphic Array) ถ้าเป็นการ์ดรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้สำหรับเล่นเกมก็จะเรียกว่า 3D Card ซึ่งเป็นการ์ดที่ช่วยให้การแสดงรูปภาพที่เป็นภาพสามมิติทำได้เร็วขึ้น การ์ดแสดงผลจะส่งสัญญาณภาพไปแสดงที่จอคอมพิวเตอร์ การ์ดบางรุ่นจะแสดงผลได้สองจอพร้อมกัน เรียกว่า Dual Head เนื่องจากมีพอร์ตสำหรับต่อสายจากจอมอนิเตอร์ได้สองจอ และการ์ดบางรุ่นจะมีช่องส่งสัญญาณภาพ ออกไปที่โทรทัศน์ได้ด้วย เรียกว่า TV-Out
การ์ดเสียง
Sound Card
          การ์ดเสียง ที่จะช่วยให้คุณฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม บันทึกเสียงเข้าไปในคอมพิวเตอร์ได้ แม้เมนบอร์ดส่วนใหญ่ จะรวมเอาการ์ดเสียงเป็นชุดเดียวกับเมนบอร์ด (Sound on Board) แต่ถ้าหากต้องการคุณภาพเสียงที่ดีกว่า หรือต้องการใช้งานด้านตนตรี ตัดต่อวิดีโอ ฟังเพลง ดูหนัง ที่ได้อารมณ์สุดๆ ก็ควรเลือกการ์ดเสียงที่ทำเป็นการ์ด แยกต่างหาก ตัวอย่างการ์ดที่ได้รับความนิยมก็เช่น Creative SoundBlaster Live, Audigy
  
Sound Card ซาวการ์ด การ์ดเสียง
1แหล่งที่มา: http://www.zabzaa.com/hardware/soundcard.htm

Monitor มอนิเตอร์ จอภาพ
Monitor
         เรียกว่าจอภาพ หรือจะเรียกทับศัพท์ว่ามอนิเตอร์ก็ไม่ผิดกติกา ที่ด้านหลังของจอจะมีสายเอาไว้ต่อเข้ากับ การ์ดจอ จอภาพก็มีขนาดให้เลือกใช้งานเช่นเดียวกับจอทีวี เริ่มตั้งแต่เล็กๆ 15 นิ้ว 17, 19, 20, 21, 24 มีทั้งแบบจอแบบ CRT หรือจะเล่นจอแอลซีดีที่มีดีไซน์หรู บางเฉียบ จอที่น่าสนใจก็เป็นขนาด 17 นิ้ว เนื่องจากราคาไม่ต่างจากจอขนาด 15 นิ้วมากนัก ที่สำคัญก็คือช่วยให้คุณทำงานได้สะดวก ขึ้น เพราะโปรแกรม เกม ส่วนใหญ่มีเครื่องมือเยอะ ทำให้การแสดงผลบนจอ 15 นิ้วเกะกะจนแทบไม่เหลือหน้าจอสำหรับ ทำงาน ข้อควรจำอีกอย่างก็คือ ภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์สามารถตั้งค่าให้แสดงขนาดเล็กลงหรือใหญ่ขึ้นได้ เรียกว่าการตั้งค่า Resolution

Keyboard คีย์บอร์ด แป้นพิมพ์
Keyboard
          แป้นพิมพ์ การพิมพ์ข้อความ การสั่งงานคอมพิวเตอร์และการทำงานหลายๆ อย่างต้องใช้แป้นพิมพ์เป็นหลัก แป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ดจะต่อสายเข้ากับพอร์ต PS/2 ของเมนบอร์ด นอกจากนี้ยังมีคีย์บอร์ดที่เป็นแบบ USB คือต้องต่อเข้าที่พอร์ต USB ของเมนบอร์ด และยังมีคีย์บอร์ดไร้สายอีกด้วย

CD-ROM / CD-RW / DVD
ซีดีรอม ดีวีดี CD-ROM CD-RW DVD
           ไดรฟ์สำหรับอ่านข้อมูลจากแผ่นซีดีรอม (CD-RW) ซีดีเพลง (Audio CD) โฟโต้ซีดี (Photo CD) วิดีโอซีดี (Video CD) โดยไดรฟ์ทั้งสามประเภท จะมีความสามารถในการอ่านข้อมูล จากแผ่นซีดีที่กล่าวมาข้างต้นอยู่แล้ว แต่ถ้าหากคุณต้องการบันทึกข้อมูลลงแผ่นซีดีได้ด้วย จะต้องเลือกใช้ไดรฟ์ CD-RW และถ้าต้องการอ่านข้อมูลจากแผ่น DVD ก็ต้องใช้ไดรฟ์ DVD นอกจากนี้ยังมีไดรฟ์อีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า Combo Drive คือเป็นไดรฟ์ที่รวมทั้งไดรฟ์ DVD และไดรฟ์ CD-RW อยู่ในไดรฟ์เดียว ทำให้ทั้งดูหนังฟังเพลง บันทึกข้อมูลลงแผ่นซีดีได้เลย ความเร็วของไดรฟ์ซีดีรอมจะเรียกเป็น X เช่น 8X, 40X, 50X ยิ่งมากก็คือยิ่งเร็ว ส่วน CD-RW นั้นจะมีตัวเลขแสดง เช่นเดียวกัน เพียงแต่จะเพิ่มความเร็วในการบันทึกข้อมูลลงแผ่นซีดี เช่น 24/10/40X นั่นคือความเร็วในการบันทึกแผ่น CD-R สูงสุด ความเร็วในการบันทึกข้อมูลลงแผ่น CD-RW และความเร็วในการอ่านข้อมูลจากแผ่นซีดีโปรแกรม หรือซีดี เพลง

งานบริการคอมพิวเตอร์และห้องปฏิบัติการ

  • โครงการปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT (ด้านงานบริการคอมพิวเตอร์และ ห้องปฏิบัติการ) เป็นโครงการ
  • ตามแผนปฏิบัติงานของสำนักเทคโนโลยีและสารสนเทศ โดยเป็นโครงการที่ตอบสนองความต้องการของทุกหน่วยงาน
  • ภายในมหาวิทยาลัย ที่มีความประสงค์ให้ดำเนินการขอซื้อ ขอติดตั้ง ซ่อมแซม และบำรุงรักษาอุปกรณ์ทั้ง Hardware และ Software
  • การสำรวจและบำรุงรักษาอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ สำนักเทคโนโลยีและสารสนเทศ ได้กำหนดแนวทางและวางแผนดำเนินการสำรวจและบำรุงรักษาอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ เพื่อเป็นแนวทางการให้บริการด้านการซ่อมบำรุงรักษาอุปกรณ์ ICT และเป็นการสำรวจเพื่อจัดทำ ฐานข้อมูลทรัพย์สินด้าน ICT ของมหาวิทยาลัย สำหรับใช้เป็นข้อมูลประกอบการบริหารจัดการและ การวางแผน
  • การบริหารจัดการ Software License สำนักเทคโนโลยีและสารสนเทศ ได้กำหนดแนวทางและ วิธีการดำเนินการเกี่ยวกับการติดตั้งซอฟต์แวร์ MS-Campus agreement และการติดตั้ง Anti Virus รวมถึง Software ประเภทFreeware ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในมหาวิทยาลัย และยังบริการติดตั้ง Software License ให้กับบุคลากรของมหาวิทยาลัยตามโครงการบอกรับการเป็นสมาชิก MS-Campus agreement ด้วย
  • โครงการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ห้องปฏิบัติการและสำนักงาน เป็นโครงการที่สำรวจ วิเคราะห์ และเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมด ของมหาวิทยาลัยเพื่อนำมาวางแผนในการจัดซื้อ จัดหาและปรับปรุงคุณภาพเพื่อให้ทุกหน่วยงานมีอุปกรณ์ ในการใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินงานตามความเหมาะสมและเพียงพอและสอดคล้องกับงบประมาณ รายจ่ายประจำปี